มาลินา ไหง ได้รับการยกย่องจาก Fortune เป็นหนึ่งในสตรีผู้ทรงอิทธิพลแห่งเอเชียถอดรหัสความสำเร็จ 185 ปีของเอเอส วัตสัน
ดร. มาลิน่า ไหง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท เอเอส วัตสัน (Group CEO of AS Watson)
ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน “สตรีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2025” โดยนิตยสาร Fortune ซึ่งเธอได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 6 และยังเป็นผู้นำเพียงหนึ่งเดียวจากธุรกิจค้าปลีกที่ติดอันดับท็อป 10 ปีนี้ การประกาศรางวัลมีขึ้นทางออนไลน์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และมีพิธีมอบรางวัลอย่างเป็นทางการในงาน Fortune Innovation Forum ที่จัดขึ้น ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ผ่านมา
ในการเสวนาบนเวทีงานประกาศรางวัล เธอได้แบ่งปันมุมมองในหัวข้อ “ศาสตร์เบื้องหลังที่ขับเคลื่อนองค์กร 185 ปี” โดยพูดถึงการบริหารเครือข่ายค้าปลีกขนาดใหญ่ท่ามกลางสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เอเอส วัตสัน ในฐานะผู้ค้าปลีกสินค้าสุขภาพและความงามรายใหญ่ที่สุดของโลก ดำเนินการร้านค้ากว่า 17,000 แห่งใน 31 ตลาดทั่วโลก และในมาเลเซีย วัตสันมีมากกว่า 800 สาขา ครองตำแหน่งผู้ค้าปลีกสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศ
“การนำพาองค์กรที่มีประวัติยาวนานถึง 185 ปี เป็นทั้งเกียรติและความท้าทาย” ดร.ไหงกล่าว “ประวัติศาสตร์สร้างความน่าเชื่อถือ แต่ความทันสมัยทำให้เรายังเป็นที่ต้องการ ประเพณีคือรากฐาน แต่ความคิดสร้างสรรค์คือปีกของเรา” เธอยังเน้นถึงความสำคัญของการรับฟังอย่างลึกซึ้ง ทั้งจากลูกค้า พนักงาน และพันธมิตร พร้อมย้ำว่าการตัดสินใจที่ดีต้องผสานทั้งเหตุผลและความรู้สึก
ดร.ไหงกล่าวถึงความสำคัญของบุคลากรและความคล่องตัวในการทำงานว่า “วัฒนธรรมองค์กรคือสะพานเชื่อมอดีตสู่อนาคต เราลงทุนในบุคลากรและความคล่องตัว เพื่อให้ทีมสามารถปรับตัวได้รวดเร็วโดยไม่สูญเสียตัวตนของเรา” พร้อมอธิบายว่าพื้นฐานด้านกีฬาของเธอเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในเรื่อง ความไม่ยอมแพ้ “กีฬาได้สอนฉันถึงความแกร่งที่แท้จริง—บางสิ่งที่ธุรกิจไม่สามารถให้ได้ คุณต้องฝึกหนักเป็นเดือนเพื่อช่วงเวลาสั้น ๆ บนเวที และสิ่งที่ทำให้คุณผ่านมันไปได้ คือสมาธิ ความพร้อม ความพากเพียร และการไม่ยอมแพ้ นั่นแหละคือแก่นของความเข้มแข็งจากภายใน”
เธอยังเล่าว่ากีฬาได้หล่อหลอมสไตล์การเป็นผู้นำของเธอ ตั้งแต่การมีสมาธิภายใต้ความกดดัน การตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ไปจนถึงความสำคัญของการทำงานเป็นทีมและความไว้วางใจระหว่างกัน ดร.ไหงเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเอเอส วัตสันในการผสาน “ศิลปะและวิทยาศาสตร์” เข้ากับการค้าปลีก โดยใช้ข้อมูลและ AI เพื่อพัฒนาการนำเสนอที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย พร้อมรักษาความสัมพันธ์แบบใกล้ชิด “เราเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีหัวใจมนุษย์” เธอกล่าว
เอเอส วัตสันก้าวเข้าสู่ปีที่ 185 องค์กรยังคงเดินหน้าพัฒนาและสร้างสรรค์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยแนวคิดที่ผสมผสานความแข็งแกร่งจากประวัติศาสตร์เข้ากับมุมมองที่มุ่งสู่อนาคต
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัลได้ที่: Most Powerful Women Asia | Fortune
เพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติองค์กรและการพัฒนาบุคลากรของเอเอส วัตสัน สามารถเยี่ยมชมได้ที่: Our History
AS Watson Surpasses Halfway Mark in Global Youth Employment Pledge: 134,000 Young People Recruited Worldwide and 3.8 Million Training Hours Delivered to Empower Future Retail Leaders
ดร. มาลิน่า ไหง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท เอเอส วัตสัน (Group CEO of AS Watson)
ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน “สตรีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2025” โดยนิตยสาร Fortune ซึ่งเธอได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 6 และยังเป็นผู้นำเพียงหนึ่งเดียวจากธุรกิจค้าปลีกที่ติดอันดับท็อป 10 ปีนี้ การประกาศรางวัลมีขึ้นทางออนไลน์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และมีพิธีมอบรางวัลอย่างเป็นทางการในงาน Fortune Innovation Forum ที่จัดขึ้น ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ผ่านมา
ในการเสวนาบนเวทีงานประกาศรางวัล เธอได้แบ่งปันมุมมองในหัวข้อ “ศาสตร์เบื้องหลังที่ขับเคลื่อนองค์กร 185 ปี” โดยพูดถึงการบริหารเครือข่ายค้าปลีกขนาดใหญ่ท่ามกลางสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เอเอส วัตสัน ในฐานะผู้ค้าปลีกสินค้าสุขภาพและความงามรายใหญ่ที่สุดของโลก ดำเนินการร้านค้ากว่า 17,000 แห่งใน 31 ตลาดทั่วโลก และในมาเลเซีย วัตสันมีมากกว่า 800 สาขา ครองตำแหน่งผู้ค้าปลีกสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศ
“การนำพาองค์กรที่มีประวัติยาวนานถึง 185 ปี เป็นทั้งเกียรติและความท้าทาย” ดร.ไหงกล่าว “ประวัติศาสตร์สร้างความน่าเชื่อถือ แต่ความทันสมัยทำให้เรายังเป็นที่ต้องการ ประเพณีคือรากฐาน แต่ความคิดสร้างสรรค์คือปีกของเรา” เธอยังเน้นถึงความสำคัญของการรับฟังอย่างลึกซึ้ง ทั้งจากลูกค้า พนักงาน และพันธมิตร พร้อมย้ำว่าการตัดสินใจที่ดีต้องผสานทั้งเหตุผลและความรู้สึก
ดร.ไหงกล่าวถึงความสำคัญของบุคลากรและความคล่องตัวในการทำงานว่า “วัฒนธรรมองค์กรคือสะพานเชื่อมอดีตสู่อนาคต เราลงทุนในบุคลากรและความคล่องตัว เพื่อให้ทีมสามารถปรับตัวได้รวดเร็วโดยไม่สูญเสียตัวตนของเรา” พร้อมอธิบายว่าพื้นฐานด้านกีฬาของเธอเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในเรื่อง ความไม่ยอมแพ้ “กีฬาได้สอนฉันถึงความแกร่งที่แท้จริง—บางสิ่งที่ธุรกิจไม่สามารถให้ได้ คุณต้องฝึกหนักเป็นเดือนเพื่อช่วงเวลาสั้น ๆ บนเวที และสิ่งที่ทำให้คุณผ่านมันไปได้ คือสมาธิ ความพร้อม ความพากเพียร และการไม่ยอมแพ้ นั่นแหละคือแก่นของความเข้มแข็งจากภายใน”
เธอยังเล่าว่ากีฬาได้หล่อหลอมสไตล์การเป็นผู้นำของเธอ ตั้งแต่การมีสมาธิภายใต้ความกดดัน การตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ไปจนถึงความสำคัญของการทำงานเป็นทีมและความไว้วางใจระหว่างกัน ดร.ไหงเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเอเอส วัตสันในการผสาน “ศิลปะและวิทยาศาสตร์” เข้ากับการค้าปลีก โดยใช้ข้อมูลและ AI เพื่อพัฒนาการนำเสนอที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย พร้อมรักษาความสัมพันธ์แบบใกล้ชิด “เราเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีหัวใจมนุษย์” เธอกล่าว
เอเอส วัตสันก้าวเข้าสู่ปีที่ 185 องค์กรยังคงเดินหน้าพัฒนาและสร้างสรรค์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยแนวคิดที่ผสมผสานความแข็งแกร่งจากประวัติศาสตร์เข้ากับมุมมองที่มุ่งสู่อนาคต
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัลได้ที่: Most Powerful Women Asia | Fortune
เพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติองค์กรและการพัฒนาบุคลากรของเอเอส วัตสัน สามารถเยี่ยมชมได้ที่: Our History
AS Watson Surpasses Halfway Mark in Global Youth Employment Pledge: 134,000 Young People Recruited Worldwide and 3.8 Million Training Hours Delivered to Empower Future Retail Leaders



