JobThai ชี้ตลาดแรงงานปี 2568 “AI – ไลฟ์สด” แรงไม่หยุด Reskill คือกุญแจคนทำงานยุคใหม่
·
ตลาดแรงงานไทยยังโต
แม้เศรษฐกิจชะลอ มีตำแหน่งงานเปิดรวมกว่า
1.75 ล้านอัตรา เพิ่มขึ้น
2.18% โดยธุรกิจ อาหาร–ค้าปลีก–ยานยนต์–บริการ–ก่อสร้าง
ยังต้องการแรงงานสูง
·
ทักษะ
“AI และไลฟ์สด” มาแรงสุดในปี 2568 องค์กรแห่หาคนใช้
ChatGPT, Gemini, TensorFlow, Midjourney ขณะงาน
TikTok Live
/ ไลฟ์ขายของ เป็นคำค้นหายอดนิยม
·
องค์กร–คนทำงานเร่งปรับตัวสู่ยุค
AI กว่า 49% ขององค์กร และ 64% ของคนทำงาน ใช้ AI แล้ว
โดย Gen Z
ใช้มากสุดถึง 67%
แต่ส่วนใหญ่เห็นว่า AI เป็น “ผู้ช่วย” ไม่ใช่
“ผู้แทน”
·
Reskill
คือกุญแจอยู่รอดของแรงงานยุคใหม่ ต้องพัฒนา
Soft Skills + ทักษะดิจิทัล ควบคู่กัน
พร้อมเปิดรับ Hybrid Work – การเรียนรู้ตลอดชีวิต – การใช้
AI อย่างสร้างสรรค์
จ๊อบไทย (JobThai) ผู้ให้บริการหางาน สมัครงาน ออนไลน์ ที่มีผู้เข้าใช้งานเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เผยภาพรวมตลาดแรงงานไทยช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2568 (มกราคม–กันยายน) จากฐานข้อมูลการเปิดรับสมัครงานและการสมัครงานทั่วประเทศ พบว่าตลาดแรงงานไทยยังคงเติบโตต่อเนื่อง มีการเปิดรับสมัครงานรวมกว่า 1,758,029 อัตรา เพิ่มขึ้น 2.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในช่วงเวลาเดียวกัน
มีการสมัครงานผ่าน JobThai รวมกว่า 17.5 ล้านครั้ง โดยวันจันทร์เป็นวันที่มีการสมัครงานมากที่สุด และช่วงเวลา 11.00–12.00
น. เป็นช่วงเวลาที่ผู้สมัครนิยมสมัครงานมากที่สุด
นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้ง และหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการจ๊อบไทย www.jobthai.com เปิดเผยว่า
จากการรวบรวมและวิเคราะห์ฐานข้อมูลความต้องการแรงงานและพฤติกรรมความต้องการของผู้สมัครงานทั่วประเทศของผู้ใช้งานจ๊อบไทยพบสถิติที่น่าสนใจ
ดังนี้
5
ธุรกิจที่มีความต้องการแรงงานมากที่สุด
จากข้อมูลของ JobThai พบว่า 5
อุตสาหกรรมหลัก ที่มีความต้องการแรงงานมากที่สุดในปีนี้
ได้แก่
1.
ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (168,556 อัตรา) – แม้เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว
แต่การบริโภคยังเป็นสิ่งสำคัญและเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ของประเทศ
รวมถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ยังนิยมการรับประทานอาหารนอกบ้านและบริการเดลิเวอรี
ทำให้ยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีความต้องการแรงงานสูงที่สุด
2. ธุรกิจค้าปลีก (148,706 อัตรา) – โดยเฉพาะกลุ่มร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ต
ที่ยังคงจ้างงานต่อเนื่อง รวมถึงร้านค้าปลีกสินค้าแฟชั่น สุขภาพ และความงาม
ที่เติบโตจากเทรนด์รักสุขภาพในทุกช่วงวัย
3. ธุรกิจยานยนต์ (118,150 อัตรา) – ได้แรงหนุนจากนโยบายภาครัฐที่ดึงดูดการลงทุนด้านรถยนต์ไฟฟ้า
(EV) ทำให้เกิดการจ้างงานในกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วน
และตัวแทนจำหน่าย
4.
ธุรกิจบริการ
(116,222 อัตรา) – โดยเฉพาะบริการเอาท์ซอร์สซิ่ง (Outsourcing) เช่น งานบริการลูกค้า,
งานจัดหางาน, IT Service และนอกจากนี้ยังมีงานบริการสุขภาพ
5. ธุรกิจก่อสร้าง (96,980 อัตรา) – ได้แรงหนุนจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐที่ยังเดินหน้าต่อเนื่อง
แม้ภาคเอกชนจะชะลอตัว
ขณะเดียวกัน ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์
กลายเป็นดาวรุ่งของตลาดแรงงาน โดยมีตำแหน่งงานเปิดรับกว่า 92,138 อัตรา เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน
สะท้อนบทบาทของไทยในฐานะฐานการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำคัญของโลก
แม้จะเผชิญแรงกดดันจากนโยบายภาษีการค้าระหว่างประเทศ
นางสาวแสงเดือน กล่าวอีกว่า สำหรับ
5 สายงานที่องค์กรเปิดรับมากที่สุด อันดับหนึ่งงานขาย คิดเป็น 21.38%
อันดับสองงานช่างเทคนิค คิดเป็น 9.53% อันดับสามงานผลิต/ควบคุมคุณภาพ คิดเป็น
9.03% อันดับสี่งานวิศวกรรม คิดเป็น 5.84% อันดับห้างานธุรการ/จัดซื้อ คิดเป็น
5.71% ของอัตราการเปิดรับในแต่ละเดือนรวมกัน ด้าน 5
สายงานที่มีผู้สมัครมากที่สุด พบว่า งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ
มีการสมัครสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งคิดเป็น 13.55%
อันดับสองงานธุรการ/จัดซื้อ คิดเป็น 11.99%% อันดับสามงานวิศวกรรม คิดเป็น 9.54%
อันดับสี่งานทรัพยากรบุคคล คิดเป็น 7.96% อันดับห้างานขาย
คิดเป็น 7.86% ของผู้สมัครทั้งหมด
“AI และไลฟ์สด” ทักษะใหม่ที่ตลาดต้องการ
ในมิติของทักษะการทำงาน พบว่า องค์กรต้องการคนทำงานที่มีทักษะความรู้ด้าน
AI
และความสามารถในการใช้เครื่องมือ AI สูงขึ้น
โดยเฉพาะสายงานดังนี้ 1. งานคอมพิวเตอร์/ไอที ได้แก่ ChatGPT, Machine
Learning, TensorFlow, PyTorch, OpenCV, Natural Language Processing (NLP), Large
Language Models (LLM) 2. งานการตลาด ได้แก่ ChatGPT,
Gemini, Claude, Midjourney 3. งานออกแบบ/กราฟิก ได้แก่ ChatGPT,
Gemini, Midjourney 4. งานวิศวกรรม ได้แก่ Computer Vision,
ChatGPT, Machine Learning, Deep Learning 5. งานทรัพยากรบุคคล
ได้แก่ ChatGPT, Gemini
“ไลฟ์สด
/ TikTok” เป็นคีย์เวิร์ดที่มาแรงติดอันดับคำค้นยอดนิยมขององค์กร
สะท้อนเทรนด์ธุรกิจออนไลน์ที่ต้องการบุคลากรด้านคอนเทนต์ไลฟ์สดและสตรีมเมอร์เชิงพาณิชย์มากขึ้น
ส่วนคำค้นหายอดนิยมจากฝั่งผู้สมัครกลับสะท้อนอีกมุมหนึ่งของตลาดแรงงาน คือ “หยุดเสาร์–อาทิตย์
/ นักศึกษาจบใหม่ / ไม่มีประสบการณ์ / ฝึกงาน”
นางสาวแสงเดือน กล่าวเสริมอีกว่า JobThai ยังได้จัดทำแบบสำรวจ
สำรวจ "การนำเทคโนโลยี
AI เข้ามาใช้งานภายในองค์กรและการทำงาน" จากกลุ่มตัวอย่างคนทำงานกว่า 2,600 คน และ HR กว่า 600 องค์กรทั่วประเทศ พบว่า
- 49.42% ขององค์กรไทย ได้นำ AI เข้ามาใช้ในงานบางส่วนแล้ว
- 63.93% ของคนทำงาน เคยใช้ AI เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะในงานค้นคว้า เขียนสรุปเนื้อหา และสร้างคอนเทนต์
- Gen Z เป็นกลุ่มที่ใช้
AI มากที่สุดถึง 67.5% รองลงมาคือ
Gen Y (64.16%) และ Gen X (55.11%)
นอกจากนี้ 64.89% ขององค์กร มองว่า AI ควรถูกใช้เป็น
“ผู้ช่วยเสริมประสิทธิภาพ” มากกว่าจะมา “แทนคนทำงาน”
มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มองว่า AI จะเข้ามาแทนตำแหน่งงานซ้ำซากหรืองานที่ใช้ทักษะต่ำ
ผลสำรวจของ JobThai ยังชี้ว่า
คนทำงาน 74.29% มีทัศนคติเชิงบวกต่อการใช้ AI โดยเห็นว่า AI ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น เร็วขึ้น
และเปิดโอกาสให้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ขณะเดียวกัน 69.71% มองว่า AI มีส่วนทำให้คนตกงานบ้างในบางสายงาน แต่เป็นแรงกระตุ้นให้ต้องพัฒนา
“ทักษะใหม่” แทนที่จะหลีกเลี่ยง
นางสาวแสงเดือน
กล่าวสรุปว่า เทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกของการทำงานในทางที่ดีและท้าทาย
รวมถึงในอนาคตเทคโนโลยีต่าง ๆ จะมีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน สิ่งสำคัญคือคนทำงานต้องเรียนรู้และปรับตัวตลอดเวลา
ทั้งในด้านทักษะดิจิทัลและ Soft Skills เช่น การสื่อสาร การคิดวิเคราะห์
และความคิดสร้างสรรค์
พร้อมแนะนำให้ภาคธุรกิจปรับแนวทางการทำงานให้สอดคล้องกับความต้องการของพนักงานรุ่นใหม่
โดยเฉพาะการส่งเสริมการทำงานแบบ
Hybrid Work, การพัฒนาทักษะการใช้
AI เชิงลึก,
การลงทุนในเทคโนโลยี และการปรับระบบสวัสดิการให้เหมาะสม เพื่อรักษาและจูงใจบุคลากรที่มีคุณภาพให้อยู่กับองค์กรระยะยาว
ผู้สนใจสามารถหางาน สมัครงาน
หรือค้นหาบุคลากรคุณภาพได้ที่
www.jobthai.com หรือ โทร. 02-353-6999





