กลุ่มผู้เสียหายหุ้นกู้สตาร์ค ยื่นหนังสือสอบถาม ยธ. ปม "วนรัชต์" ผู้ต้องหาในคดีหุ้นกู้สตาร์ค ถูกส่งตัวรักษาที่ห้องพิเศษ ชั้น 14 รพ.ตำรวจ เกือบ 1 เดือน ตั้งข้อสงสัยใช้สิทธิเลี่ยงถูกคุมขังในเรือนจำ ขณะที่ รพ.ราชทัณฑ์ ชี้แจงพบก้อนเนื้อเสี่ยงมะเร็ง ต้องผ่าตัด

กลุ่มผู้เสียหายหุ้นกู้สตาร์ค ยื่นหนังสือสอบถาม ยธ. ปม "วนรัชต์" ผู้ต้องหาในคดีหุ้นกู้สตาร์ค ถูกส่งตัวรักษาที่ห้องพิเศษ ชั้น 14 รพ.ตำรวจ เกือบ 1 เดือน ตั้งข้อสงสัยใช้สิทธิเลี่ยงถูกคุมขังในเรือนจำ ขณะที่ รพ.ราชทัณฑ์ ชี้แจงพบก้อนเนื้อเสี่ยงมะเร็ง ต้องผ่าตัด

21 พ.ค.2567 กลุ่มผู้เสียหายหุ้นกู้สตาร์ค กว่า 50 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หลังทราบว่านายวนรัชต์ ผู้ต้องหาในคดีหุ้นกู้สตาร์ค ถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ไปรักษาตัวที่ชั้น 14 ห้องพิเศษ โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อรักษาตัวจากอาการป่วย

กลุ่มผู้เสียหาย ตั้งข้อสงสัยที่นายวนรัชต์ ได้ใช้สิทธิพิเศษ หรือจงใจหลีกเลี่ยงการถูกคุมขังในเรือนจำหรือไม่ เนื่องจากศาลไม่ให้ประกันตัวระหว่างต่อสู้คดีตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โดยอ้างอาการเจ็บป่วยเข้ารักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เป็นเวลากว่า 3 เดือน

ทั้งนี้ นายสมบูรณ์ ม่วงก่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม ตัวแทนกรมราชทัณฑ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตั้งโต๊ะชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น

นายพงศ์ภัค อารียาภินันท์ รักษาการผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า ตั้งแต่ผู้ต้องหาถูกส่งเข้าเรือนจำ เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ทางกรมราชทัณฑ์ได้ส่งตัวเข้ารักษา เมื่อวันที่ 13 ก.พ. หลังตรวจพบว่าเป็นผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง 608 เมื่อตรวจสอบพบว่าเคยมีประวัติการฉีดสีตรวจหาโรคหัวใจจากโรงพยาบาลเอกชน และประวัติการรักษาโรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ที่เขื่อได้ว่ามีอาการป่วยจริง จึงรับเข้ารักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์

ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ผู้ต้องหาได้ปรึกษาอาการเกี่ยวกับปัญหาทางเดินปัสสาวะ ก่อนตรวจพบก้อนเนื้อขนาด 5 เซนติเมตร คาดว่ามีอาการติดเชื้อ จึงให้กินยาฆ่าเชื้อจนผู้ต้องหามีอาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ภายหลังแพทย์ยืนยันว่า ผลการตรวจสอบพบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นโรคมะเร็ง แพทย์จึงมีความเห็นควรให้ได้รับการผ่าตัดอัณฑะข้างซ้ายทันที ทางกรมราชทัณฑ์ จึงประสานส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี แต่ไม่มีคิวผ่าตัดในระยะเวลา 1 เดือน จึงประสานกับทางโรงพยาบาลตำรวจ ก่อนได้คิวการรักษา และได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจในวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา

ส่วนกรณี การเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจเกือบ 1 เดือน ซึ่งจะครบกำหนดตามสิทธิการรักษาภายใน 30 คือวันที่ 23 พ.ค.นี้ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า การส่งตัวผู้ต้องหากลับเป็นดุลยพินิจของแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์จะทำหนังสือสอบถามไปยังโรงพยาบาลตำรวจ ให้รายการผลการรักษา และกำหนดวันส่งตัวกลับ แต่ยังไม่สามารถระบุวันได้ ซึ่งล่าสุดทราบว่าได้รับการผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา

บรรยากาศการชี้แจงภายในห้องประชุม ทางกลุ่มผู้เสียหายพยายามโต้เถียงเกี่ยวกับสิทธิการรักษาเป็นไปตามข้อกำหนดของกรมราชทัณฑ์หรือไม่ ซึ่งตัวแทนกลุ่มเสียหาย เปิดเผยว่า ได้พยายามตั้งข้อสงสัยและโต้แย้งในเรื่องของสิทธิการรักษาที่นายวนรัชต์ ที่อาจจะได้รับสิทธิพิเศษเหนือจากผู้ต้องขังโดยทั่วไป อีกทั้งการชี้แจงในวันนี้ถูกผลักความรับผิดชอบไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ที่อ้างว่าเป็นดุลยพินิจของแพทย์ที่ให้การรักษา ทั้งที่ข้อกำหนดของกรมราชทัณฑ์ระบุไว้ชัดเจนว่า สามารถรักษาจากโรงพยาบาลภายนอกได้เพียง 30 วัน ทั้งที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์มีเครื่องมือที่จะรักษาผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวได้

หลังจากนี้ทางกลุ่มผู้เสียหาย จะติดตามผลการดำเนินการของกรมราชทัณฑ์ ว่า จะสามารถติดตามผู้ต้องหากลับเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้หรือไม่ หากยังไม่คืบหน้าจะรวมตัวไปร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป

ส่วนความคืบหน้าทางคดี ตัวจากแทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ รายงานว่า ล่าสุดสามารถยึดทรัพย์ได้เพิ่มเติมมากกว่า 100 ล้านบาท และได้จะประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยตลอดเวลาเพื่อเฉลี่ยทรัพย์คืนให้กับผู้เสียหายทุกคน ส่วนบริษั เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (PDITL) บริษัทย่อยของบริษัทสตาร์คฯ ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ ก็มีความพยายามนำทรัพย์สินมาเฉลี่ยคืนให้กับผู้ต้องหาบางส่วนได้เช่นกัน ( cr : thaipbs)





Mediathailand.Report

ติดต่อทำข่าว งานแถลงข่าว เชิญร่วมงาน , ข่าวประชาสัมพันธ์ , รีวิว โฆษณา ฯลฯ Admin: สื่อมวลชนคนทำข่าว , เพจ Mediathailand.report , Website : www.mediathailand.report , Youtube : MDT Channel ,https://www.tiktok.com/@mediathailand.report ,https://twitter.com/a_jaipiam ได้ที่ Email : pintorichplus@gmail.com

แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า